ไก่ชนสายตีตา หรือ แผลวงแดงอีกหนึ่งจุดสำคัญสำหรับไก่ชนที่เจอเข้าไปจอดทุกรายหลายคน อาจจะสงสัยว่าอะไร คือ แผลวงแดง ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งจุดและศัพท์สำคัญของ วงการไก่ชน เมืองไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับแผลวงแดงเพราะนับว่าสิ่งนั้นก็คือช่วงรอบตารวมถึงดวงตาที่จะมีสีแดงๆ ของไก่ในจุดที่เรียกว่าตานั้นเอง ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญของสิ่งมีชีวิตทุกตัวบนโลกเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะกับไก่ชนที่จุดตรงนี้ ถือเป็นจุดอันตรายสำคัญ ถ้าหากโดนตีตรงจุดนี้จนเป็นแผลไก่แทบทุกตัวจะไม่สามารถตีต่อได้ทันที นี่เลยเป็นอีกหนึ่งจุดอันตรายมากสำหรับเหล่าไก่ชนที่หากโดนเข้าไป เรียกว่าจบทุกตัวเพราะไก่ชนทุกตัวหากโดนเล่นงานที่ตาและเป็นแผลขึ้นหาก็ไม่สามารถมองเห็นได้แถมอาการบาดเจ็บจะเห็นได้ชัด
ทำให้การตีวงแดง หรือไก่ตีแม่นตานั้น กลายเป็นที่ต้องการและหลายคนนำมาเลี้ยงเพื่อพัฒนาพันธุ์ไก่ชนของตัวเอง เพราะต้องบอกตามตรงเลยว่าไก่ตีวงแดงหรือแม่นตานั้นไม่สามารถฝึกได้ การจะฝึกเป็นไปได้ยากมากต้องเป็นนิสัยของไก่ที่แสดงออกมาตอนลงสนามเท่านั้น โดยเป็นสิ่งที่ติดตัวมาจากไก่อย่าง พันธุ์ไก่ชน หรือจากกรรมพันธุ์ของทางพ่อแม่ไก่ ที่สามารถส่งต่อมายังลูกไก่ชนในรุ่นถัดไปได้ ซึ่งหลายคนโดยเฉพาะกับมือใหม่หรือหลายคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับส่วนนี่ แต่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของวงการไก่ชน ที่ควรรู้เอาไว้ก่อนเป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน หลายคนจึงอยากได้ไก่ที่มีความแม่นตามาเพาะพันธุ์ซึ่งใน 10 ตัว อาจจะมีไก่แม่นตาได้สักตัวเกิดขึ้นก็ได้ ทำให้ส่วนใหญ่การตามหาหรือพัฒนาไก่ให้สามารถแม่นตาหรือเน้นไปที่การตีตาได้ ต้องอยู่ที่พันธุ์หรือส่งต่อจากพ่อแม่เท่านั้น
เพราะการตีตาหรือตีย้ำแผลที่เกิดนั้น จากนิสัยของไก่ชนจะเกิดจากสายพันธุ์หรือสัญชาตญาณที่ส่งต่อ ทำให้การฝึกหรือพยายามให้ไก่ตีแค่ตรงนั้นเป็นไปได้ยากมาก ดวงตาจึงถือเป็นจุดสำคัญสำหรับไก่ชนทุกตัวทุกสายพันธุ์ที่ป้องกันได้ยาก การหาไก่ที่ตีแม่นตาหรือวงแดงโดยทั่วไปจึงเป็นไปได้ยากซึ่งการจะทำให้สามารถเจอได้ก็ต้องลองลงสนามไปสัก 3-5 หากสังเกตว่าไก่ที่ตีเริ่มตีย้ำแผลหลายๆครั้ง และหลายสนามที่ลงสนามชอบตีตาไก่ฝั่งตรงข้ามก็ชัดเจนเลยว่า ไก่นี้สามารถตีตาได้และสามารถปั่นเป็นพ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์ได้ เพราะไก่ชนต่อให้แข็งแรง ฟิต ตีเก่ง แต่หากโดนจอมตีที่ตารอบรองว่าจอดทุกตัวเพราะความแม่นจะน้อยลงและอาการบาดเจ็บที่แสดงออกมาก็จะมากตามอีกด้วย
โดยแฟนไก่ชนหรือคนส่วนใหญ่อาจจะได้ยินกันมาว่า ไก่ชนพม่า หรือไก่ชนสายพันธุ์พม่านั้นแม่นตาทุกตัว จริงที่ไก่ชนพม่ามีความแม่นตามากกว่าไก่ชนไทย แต่ไก่ชนพม่าที่ลงสนามก็ไม่ใช่ทุกตัวที่จะแม่นตาหรือตีวงแดงได้ เพราะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สายเลือดแม่นตา หรือการตีตาส่งต่อจากสายพันธุ์ได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ยังไม่สามารถทำได้ ทำให้ไก่ไทยบางตัวหรือบางพันธุ์ก็สามารถทำได้ เพราะนอกจากไก่พม่าไก่ของประเทศไทยเราเองนั้นก็มีบางสายพันธุ์ที่สามารถตีวงแดงได้แม่นยำ รวมถึงสามารถตีย้ำไปตีตาของไก่ชนฝั่งตรงข้ามได้ โดยเป็นไก่ของพันธุ์ไทยเลย โดยมีสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากที่ เหล่าผู้ที่ชื่นชอบในไก่ชนอาจจะเคยได้ยิน หรือไม่เคยรู้จักมาก่อนอย่าง ไก่ชนพันธุ์เหล่าป่าก๋อย
ที่เป็นไก่ชนพื้นบ้านของไทย มีถิ่นกำเนิดในทางภาคเหนือโดยอยู่ใน หมู่บ้านเหล่าป่าก๋อย ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าสร้าง จังหวัดลำพูน โดยเป็น พันธุ์ไก่ชนพื้นบ้านของประเทศไทยเราเลย โดยเป็นพันธุ์ที่ตีไม่เลือกที่โดยเฉพาะในจุดของวงแดงและ บริเวณตัว เรียกว่าจิกไม่เลือกที่จึงทำให้ไก่สายพันธุ์นี้ของไทยได้รับชื่อเสียงมาก และถูกนำมาขยายพันธุ์ต่อเรื่อยมาจนเป็นที่รู้จักไปทั่ว สามารถชนะไก่ชนได้มากมายแม้แต่ไก่ชนพม่า ที่แม่นในเรื่องการตีตาก็แพ้ไปหลายตัว ทำให้ไก่พันธุ์นี้มีชื่อเสียงและในไทย เริ่มที่จะเอาไก่พันธุ์นี้มาใช้ผสมพันธุ์เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เพื่อขยายพันธุ์เพื่อให้ไก่ชนตีวงแดงได้ เพราะเชื่อว่าหลายคนมักจะเลือกที่จะผสมพันธุ์ไก่ชนไทยมากกว่าจะเลือกผสมกับไก่ชนพม่า
แต่ความยากของการเพาะพันธุ์ไก่ชนที่มีความสามารถในการตีวงแดงก็คือ พันธุกรรมที่ถูกถ่ายทอดมาไม่สามารถความคุมได้ การผสมพันธุ์หรือพัฒนาสายพันธุ์ของไก่ให้สามารถตีวงแดงได้ต้องใช้เวลา และเป็นนิสัยของไก่หรือเรียกว่าเป็น สัญชาตญาณของสัตว์ที่ต้องออกมาจากนิสัยที่ถูกส่งต่อมาจากพ่อแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากจริงๆ การพัฒนาของไก่ตีวงแดงในพม่าจึงมีมากกว่าในประเทศไทย เพราะพึ่งมามีสายเลือดของไก่ไทยที่ถูกพัฒนาขึ้นมา และกำลังเป็นตัวเลือกที่เหล่าคนเลี้ยงไก่ชนหรือเพาะพันธุ์ไก่ชนกำลังให้ความสำคัญ ทำให้ปัจจุบันในสนามจะมี ไก่ชนไทย ที่มีชั้นเชิงและสามารถตีวงแดงได้มากขึ้นจำนวนมากและเป็นไก่ของสายพันธุ์ไทยเองไม่ใช่สายพันธุ์ของพม่า
มาทำความรู้จักกับไก่ชนสายตีตาของไทย ที่มีชื่อเสียงและหลายคนอาจจะรู้หรือไม่รู้ นั่นก็คือไก่ชนพันธุ์เหล่าป่าก๋อย ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอยู่ในไทยตอนนี้กับที่มาของไก่พันธุ์นี้ ว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร ทำไมถึงมีไก่พันธุ์นี้แล้วมีลักษณะเด่นอะไรบ้าง โดยที่มาของไก่เหล่าป่าก๋อยที่เรียกกันในตอนนี้ เกิดจากการที่ กำนันสุพจน์ วิจิตร ผู้ใหญ่บ้านป่ารกฟ้า ผู้ชื่นชอบในไก่ชนและหลงใหลในไก่ชน ขณะไปประจำการอยู่เขตภาคตะวันออกได้พบเจอบ้านที่เลี้ยงไก่ชนเมืองจันทร์ ไก่ชนพันธุ์ดี ที่มีตัวสีเหลืองเลาตัวผู้ มีลีลาการชนเหมือนไก่เมืองตราด จึงได้ขอกลับมาที่หมู่บ้านด้วยหลังจากกลับมาที่หมู่บ้าน โดยตอนแรกทางกำนันสุพจน์อยากได้ตัวเมียไปทำพันธุ์ด้วย แต่ทางเจ้าของห่วงสายพันธุ์ไม่ยอมให้มา
โดยหลังจากได้ไก่กลับมาก็ได้นำมาผสมพันธุ์กับไก่พื้นบ้านตัวเมีย ที่มีนิสัยดุเดินหน้าจิกหลังจิกทั้งตัว ไม่ต้องใช้เชิงก่อนวิ่งเข้าใส่อย่างเดียว ปรากฏว่าลูกคอกแรกสามารถใช้ได้ลงสนามตีได้ แต่รุ่นถัดมาไม่สามารถใช้ได้เลย เพราะสาเหตุหลักมาจากการผสมคอก หรือผสมสายพันธุ์แบบเลือดเดียวกันทุกปี ทำให้เกิดเลือดชิดทางกำนันสุพจน์จึงกลับไปเมืองจันทร์เพื่อซื้อไก่ตัวผู้มาเพิ่มจำนวนหลายตัว ผสมไปได้หลายคอก ก็ได้ทำให้เกิดโครงสร้างตามสายพันธุ์ ที่สำคัญมีชั้นเชิงและสามารถตีตาได้แม่นและเลือกตีวงแดงได้แม่นยำมากขึ้น มีชั้นเชิงดีต่างจากรุ่นพ่อแม่ หรือรุ่นก่อนนี้ที่มีแค่วิ่งใส่จิกตีทั้งตัว แต่รุ่นที่สำเร็จนี้มีทั้งชั้นเชิง มีความแม่นยำในการตี และมีความแม่นในการตีวงแดงย้ำได้
ทำให้หลังจากรุ่นนี้ไก่ที่มีลักษณะแบบนี้ มีมากเพิ่มขึ้นทำให้ไก่ชนเหล่าป่าก๋อยกลายเป็นที่รู้จัก และเริ่มมีหลายคนที่รักในไก่ชนและอยากผสมไก่แม่นตากลับไก่ไทย ที่ไม่ใช้ไก่ของพม่าก็เลือกที่จะมายังหมู่บ้านเพื่อผสมไก่จากที่ป่าอมก๋อยกลับไป ทำให้ไก่จากที่นี้มีชื่อเสียงมากขึ้นและกลายเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันนี้ทำให้ไก่ชนป่าอมก๋อยกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้างในฐานะของ ไก่พ่อพันธุ์แม่พันธุ์พื้นบ้านของไทย ที่สามารถตีตาและตีวงแดงได้ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ซึ่งเหล่านักชนไก่ชาวไทยก็มักเลือกเอาไก่ป่าอมก๋อยเนี่ยแหละ เพื่อเอามาใช้ในการผสมพันธุ์เพื่อให้ไก่ได้เกิด การตีแม่นตามากขึ้นและนำมาเป็นตัวเลือกแรกๆในการเพราะพันธุ์เพื่อให้ไก่ชน มีความสามารถในการตีวงแดงได้
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ทีมงาน ไก่ชนไทย.com ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
เข้าร่วมกลุ่ม Line Office รับข่าวสารไก่ชน :: @kaichon-th